
Figma คืออะไร: ทำไม Designer เลือกใช้ทำ UI/UX เป็นบทความที่อธิบายเกี่ยวกับเครื่องมือออกแบบดีไซน์ที่ได้รับความนิยมอย่าง Figma ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ดีไซเนอร์สามารถสร้างและปรับปรุง UI/UX ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมแสดงข้อดีและเหตุผลที่ทำให้ Figma กลายเป็นเครื่องมือยอดนิยมในวงการออกแบบดีไซน์ยุคใหม่
อยากเลือกอ่านตามหัวข้อ
Figma คืออะไร? ทำไมถึงเป็น Tool ที่ Designer ต้องรู้!
ในยุคที่เทคโนโลยีและดีไซน์เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกธุรกิจ การเลือกเครื่องมือออกแบบที่ตอบโจทย์และสามารถรองรับการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการ UI/UX ที่ต้องการความรวดเร็วและความแม่นยำ Figma คือหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ดีไซเนอร์สามารถสร้างและปรับปรุงงานออกแบบได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ฟีเจอร์เด่นของ Figma

Design Features การออกแบบ
Figma มีเครื่องมือสำหรับการออกแบบที่ครบครัน รวมถึงการสร้าง component based design ซึ่งช่วยให้การสร้างและจัดการองค์ประกอบต่าง ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถวางกรอบการออกแบบ (design systems) เพื่อความสอดคล้องและง่ายต่อการปรับปรุงในอนาคต
Collaboration Features การทำงานร่วมกัน
หนึ่งในจุดเด่นของ Figma คือความสามารถในการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ เพราะ Figma Online คือ Software ที่อยู่บน Website base ทำให้เข้าถึงได้จากทุกที่ทั่วโลกแค่มีอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถแชร์ไฟล์ให้ทีมงานดูและแก้ไขได้พร้อมกัน ลดความยุ่งยากในการส่งไฟล์และเวอร์ชันต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถคอมเมนต์และพูดคุยในตัวไฟล์ได้ทันที
Prototyping Features การทำตัวอย่างงาน
Figma ช่วยให้คุณสามารถสร้าง prototype ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมเสริม เช่น การเชื่อมโยงหน้าจอ การสร้าง animation และ interaction ต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้การนำเสนอไอเดียเป็นไปอย่างสมจริงและเข้าใจง่าย อ่าน [Prototype คืออะไร มาลองทำใน Figma กัน! คู่มือเริ่มต้นสร้าง UI/UX อย่างง่ายสำหรับมือใหม่]
Design systems features วางกรอบการออกแบบ

Figma ช่วยให้ทีมสามารถสร้างและจัดการ design systems ได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งประกอบด้วย component libraries, style guides, และการจัดการ font size figma ที่เหมาะสม เพื่อให้ดีไซน์มีความสอดคล้องและสามารถนำไปใช้ซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Figma ยังสนับสนุนการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้สมาชิกในทีมสามารถให้ข้อเสนอแนะและปรับปรุงงานออกแบบได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ การจัดการเวอร์ชัน ช่วยลดความผิดพลาดและรักษาความสมบูรณ์ของโปรเจกต์ ทั้งนี้ การวางโครงสร้างและการจัดการ design system อย่างเป็นระบบใน Figma จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและอยู่ใน Mood & Tone ขององค์กรได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
Community และ Plugin ใหญ่มาก!
Figma มีชุมชนผู้ใช้งานที่แข็งแกร่งและมีการแชร์ plugin ต่าง ๆ มากมาย เช่น Plugin Icon, ค้นหารูปภาพ, หรือแปลง Design to HTML ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถและความสะดวกในการทำงานอย่างมาก
ใครเหมาะกับ Figma?
นักออกแบบ UI/UX
นักออกแบบ UI/UX เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ Figma เนื่องจากเครื่องมือนี้มีฟีเจอร์ที่ช่วยในการสร้างดีไซน์ที่สวยงามและใช้งานง่าย เช่น การออกแบบ component based design ที่ช่วยให้สามารถสร้างและปรับปรุงองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการวางกรอบการออกแบบ (design systems) ที่ช่วยให้การจัดการดีไซน์เป็นระบบและสอดคล้องกันมากขึ้น นอกจากนี้ ฟีเจอร์การ increase font size figma หรือ decrease font size ก็ช่วยให้การปรับแต่งข้อความเป็นไปอย่างง่ายดาย
นักพัฒนา Developer
สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการเข้าใจและนำดีไซน์ไปพัฒนาต่อ Figma ก็เป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ เนื่องจากสามารถส่งออกไฟล์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น adobe photoshop sketch หรือ adobe xd sketch ซึ่งช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างดีไซเนอร์และนักพัฒนามีความราบรื่นมากขึ้น นอกจากนี้ Figma ยังรองรับการทำงานบน Figma online และ Figma web ซึ่งสะดวกต่อการเข้าถึงทุกที่ทุกเวลา
ฟรีแลนซ์ / ทีม Startup
กลุ่มฟรีแลนซ์และทีม startup ที่ต้องการเครื่องมือออกแบบที่ใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน โปรแกรม Figma เป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากสามารถใช้งานได้ฟรีในเวอร์ชันพื้นฐาน พร้อมทั้งมี community และ plugin เยอะมากที่ช่วยเสริมฟังก์ชันการใช้งานให้ครอบคลุมทุกความต้องการ อีกทั้งยังสามารถ decrease font size หรือ increase font size figma ได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้เหมาะสมกับดีไซน์แต่ละชิ้นงาน
นอกจาก UI แล้วทำไม Figma ถึงเหมาะกับการทำ UX ?
ทำไม Figma จึงเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับทีม UX และ ฟีเจอร์อะไรบ้างที่สนับสนุนการทำ UX
สร้างแบบจำลองแอนิเมชันสวยงามได้ง่ายๆ
คุณสามารถสร้างแบบจำลองแอนิเมชันที่สวยงามได้อย่างง่ายดายด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง พร้อมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบต่างๆ ได้เองโดยใช้ส่วนประกอบที่มีความโต้ตอบ เพื่อช่วยให้คุณสร้างภาพเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว
สร้างการทำงานที่สมจริงยิ่งขึ้นด้วยการใช้ตัวแปรและเงื่อนไข
เพื่อปรับเปลี่ยนเนื้อหาอย่างอัตโนมัติ การใช้สมการและการคำนวณช่วยให้สามารถสร้างสถานการณ์ที่หลากหลายและตอบสนองต่อการกระทำของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องมือ Prototyping
เครื่องมือที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานต่าง ๆ เช่น การกดปุ่มเพื่อไปยังหน้าถัดไป หรือการกดข้อความเพื่อแสดง Tool tip เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถนำทางและใช้งานระบบได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ
Figma ราคาเท่าไหร่
Figma มีทั้งเวอร์ชันฟรีและแบบเสียเงิน โดยเวอร์ชันฟรีก็เพียงพอสำหรับการใช้งานเบื้องต้น เช่น การสร้างโปรเจกต์ไม่เกิน 3 ชิ้น พร้อมกับการเข้าถึง community และ plugin ต่าง ๆ สำหรับทีมขนาดเล็กหรือบุคคลทั่วไป แต่สำหรับองค์กรหรือทีมที่ต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การจัดการโปรเจกต์จำนวนมาก การสนับสนุนแบบพิเศษ หรือการใช้งานแบบไม่จำกัด ก็สามารถเลือกสมัครแบบเสียเงินได้ ซึ่งมีราคาให้เลือกตามความต้องการ
ผลิตภัณฑ์ของ Figma ได้แก่ FigJam, Figma Slides, Dev Mode, Figma Design, Figma Draw, Figma Buzz, Figma Sites และ Figma Make ซึ่งในแพ็คเกจจะมีการกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงโดยแบ่งเป็นแต่ละ seat ดังนี้
– Collab seat: เข้าถึงและใช้งานเครื่องมือ FigJam และ Figma Slides
– Dev seat: เข้าถึงและใช้งานเครื่องมือ FigJam, Figma Slides, Dev Mode และ Figma Buzz
– Full seat: เข้าถึงและใช้งานทุกเครื่องมือของ Figma ได้แก่ FigJam, Figma Slides, Dev Mode, Figma Draw, Figma Design, Figma Buzz, Figma Sites และ Figma Make
การแบ่งสิทธิ์ในแต่ละ seat ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเครื่องมือตามความเหมาะสมและความจำเป็นในการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานและการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิผล

เลือกแผนไหนที่เหมาะกับคุณ
แผนฟรี Starter
เลือกแผน Starter หากคุณ:
– ทำงานกับโปรเจคส่วนตัว
– ต้องการเครื่องมือง่ายๆ สำหรับการออกแบบ การนำเสนอ และการระดมความคิด
– ต้องการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของ Figma
คุณสมบัติหลัก:
– จัดเก็บร่างแบบไม่จำกัด
– เข้าถึงชุดเครื่องมือและเทมเพลตสำหรับออกแบบ
– การตรวจสอบไฟล์ออกแบบเบื้องต้น
– ใช้เครดิต AI จำกัด
แผนมืออาชีพ (Professional)
เลือกแผน Professional:
– สำหรับทีมระดับมืออาชีพหรือทีมเล็ก
– ต้องการไฟล์และโปรเจคไม่จำกัดสำหรับทีมเดียว และเครื่องมือสร้างต้นแบบขั้นสูง รวมถึงการส่งต่อผลงานพัฒนาที่ง่ายขึ้น
คุณสมบัติหลัก:
– ไฟล์และโปรเจคไม่จำกัด
– ห้องสมุดการออกแบบสำหรับทีมทั้งองค์กร
– การตรวจสอบและการส่งมอบงานในโหมด Developer ขั้นสูง รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ MCP สำหรับเชื่อมต่อ AI
– เครดิตสำหรับใช้ใน Full seat 3,000 ต่อเดือน
ค่าบริการ:
– รายเดือน: Collab seat ราคา $3 ต่อเดือน, Dev seat ราคา $12 ต่อเดือน, Full seat ราคา $16 ต่อเดือน
– รายปี: ราคาสำหรับแต่ละประเภทจะมีรายละเอียดในแผน
แผนองค์กร (Organization)
มีให้เลือกแบบรายปีเท่านั้น
สำหรับธุรกิจที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ในระดับองค์กร ต้องการทีมจำนวนไม่จำกัดและความปลอดภัยพื้นฐาน
และต้องการรวมไฟล์หรือข้อมูลที่อัพโหลด เช่น สื่อและไลบรารี เข้าด้วยกันอย่างมีศูนย์กลางเพื่อการจัดการระดับองค์กรได้
คุณสมบัติหลัก:
– ทีมไม่จำกัด
– ไลบรารีและฟอนต์แบบแชร์ร่วมกัน
– เครื่องมือบริหารจัดการศูนย์กลาง
– เครดิตสำหรับ Full seat 3,500 ต่อเดือน
ราคาบริการ:
– Collab seat: $5 ต่อเดือน
– Dev seat: $25 ต่อเดือน
– Full seat: $55 ต่อเดือน
– ราคาสำหรับองค์กรแบบรายปีสามารถปรึกษาทีมฝ่ายขาย
แผนระดับเอ็นเตอร์ไพรส์ (Enterprise)
สำหรับธุรกิจที่ออกแบบสำหรับหลายผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ต้องการความปลอดภัยระดับองค์กร และต้องการระบบออกแบบที่สามารถปรับขนาดได้ พร้อมการจัดการผู้ดูแลระบบที่ง่ายขึ้น
คุณสมบัติหลัก:
– เวิร์กสเปซทีมแบบกำหนดเอง
– การกำหนดธีมและเชื่อมต่อกับ API ของระบบออกแบบ
– การบริหารจัดการผู้ใช้ผ่าน SCIM
– เครดิตสำหรับ Full seat 4,250 ต่อเดือน
ราคาจากทีมฝ่ายขาย
หมายเหตุ: ราคาที่แสดงเป็นข้อมูลอัพเดทเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2023 และอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของบริษัท ภายหลัง ดูตารางราคา
คำถามที่พบบ่อย
โปรแกรม Figma ใช้งานฟรีไหม มีราคาเท่าไหร่บ้าง
โปรแกรม Figma มีทั้งเวอร์ชันฟรีและเวอร์ชันแบบเสียค่าใช้จ่าย โดยเวอร์ชันฟรีนั้นเหมาะสำหรับบุคคลหรือทีมขนาดเล็กที่ต้องการใช้งานฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น การสร้างและแก้ไขดีไซน์แบบเรียลไทม์ รวมถึงการทำงานร่วมกันในทีม โดยสำหรับเวอร์ชันที่มีค่าใช้จ่ายนั้น จะมีแพ็กเกจต่าง ๆ ให้เลือกตามความต้องการ เช่น Professional, Organization และ Enterprise ซึ่งมีราคาที่แตกต่างกันไป โดยราคาสำหรับแพ็กเกจพื้นฐานจะเริ่มต้นประมาณ 12 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน สำหรับข้อมูลล่าสุดและรายละเอียดเพิ่มเติม ควรเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ทางการของ Figma เพื่อความถูกต้องและอัปเดตที่สุด
โปรแกรม Figma ใช้งานบท IPAD ได้ไหม
โปรแกรม Figma สามารถใช้งานบน iPad ได้ผ่านทางเบราว์เซอร์ Safari หรือแอปพลิเคชัน Figma IOS App Store และ Figma Android แต่เวอร์ชั่นแอพความสามารถจะน้อยกว่าเนื่องจากถูกออกแบบให้ใช้บน Browser เป็นหลัก
บริษัท Figma ก่อตั้งในปีอะไร
บริษัท Figma ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดย Dylan Field และ Evan Wallace โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเครื่องมือออกแบบและการทำงานร่วมกันในรูปแบบออนไลน์ที่สามารถใช้งานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ ซึ่ง Figma ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในวงการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์





